โรคปวดหลัง

โรคปวดหลัง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งเรื่องที่มีอันตราย และไม่มีอันตราย
หลังประกอบไปด้วยส่วนที่เห็นกระดูก ข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังมีอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้เคียง เช่นไต กระเพาะอาหาร ตับอ่อน เป็นต้น
สาเหตุต่างๆที่พบบ่อย เช่น

1. กล้ามเนื้ออักเสบ มักมีสาเหตุมาจากการทำงานหนักจนเกินไป ทำงานด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรืออาจมีการก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ ถ้าอาการปวดหลังเกิดมาจากสาตุนี้ ก็คงไม่มีอันตรายมากเพียงแต่มีอาการปวดเท่านั้น ไม่มีอาการปวดร้าวลงขา ไม่มีปวดร้าวไปที่ท้อง ไม่มีอาการชา ซึ่งการรักษาก็ต้องหยุดพักจากงานที่ทำ เพราะถ้ายิ่งทำ การอักเสบย่อมมีมากขึ้น รับประทานยาแก้อักเสบ คลายกล้มเนื้อก็มักจะหายได้

2. หมอนรองกระดูกเคลื่อน มักเป็นในคนอายุ ประมาณ 30-50 ปี มีการทำงานหนัก ยกของหนัก อาการปวดมักจะร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง หรือ 2 ข้าง การปวดร้าวจะเลยเข่าลงไปถึงน่อง หรืออาจถึงปลายเท้าก็ได้ อาจมีอาการชาร่วมด้วย อาจรู้สึกขาข้างนั้นไม่ค่อยมีแรง การรักษาก็ต้องหยุดพักจากงานที่ทำ และอาจต้องนอนพักแบบนอนทั้งวัน เพื่อให้กระดูกสันหลังได้พัก ประมาณ 4 – 5 วัน มักต้องรับประทานยาหลายๆ อย่างร่วมกันเพื่อทำให้อาการดีขึ้น ซึ่งหากรับประทานยาติดต่อกันมากกว่า 6 สัปดาห์ แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจต้องผ่าตัดเพื่อเอาหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนนั้นออก

3. กระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท มักเป็นในคนที่อายุมากกว่า 50 ปี มีอาการปวดหลัง อาจมีอาการปวดร้าวลงขาหรือ ไม่มีก็ได้ อาจมีอาการชาร่วมด้วย มักมีอาการขาอ่อนแรง เดินได้ไม่ไกล เมื่อเดินได้ระยะหนึ่ง อาจมีอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงจนเดินต่อไม่ไหว ต้องหยุดนั่งพักแล้วจึงเดินต่อได้ ควรรักษาแบบตามอาการก่อน โดยการลดการทำงาน ลดการเดิน รับประทานยา กายภาพบำบัด เป็นเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้หายในทันที หากอาการไม่ดีขึ้นจึงพิจารณาผ่าตัด

4. กระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกพรุน พบในผู้สูงอายุ มีอาการปวดหลังง่าย ไม่ควรให้ยกของ หรือทำงานหนัก เพราะ กระดูกสันหลังที่อยู่ในภาวะกระดูกพรุนจะเปราะ และหักง่าย การหกล้มเบาๆ การก้มเก็บของ การนั่งถอนหญ้า อาจทำให้กระดูกสันหลังยุบ หรือหักได้ ควรรักษาโดยการ ปรับสภาพที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัย ไม่หกล้มง่าย มีราวจับ งดการทำงานหนัก รับประทานยาเพื่อลดอาการปวด และ รับประทานยาเพื่อช่วยบำรุงกระดูกควบคู่ไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น